เต่าซูคาต้าเป็นเต่าบกสายพันธุ์ที่กินจุและมักมีความอยากอาหารสูง ดังนั้นเมื่อเจ้าของพบว่าเต่าซูคาต้าเริ่มไม่กินอาหารหรือกินน้อยลง นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาบางอย่าง ทั้งด้านสุขภาพ สภาพแวดล้อม หรืออาหารที่ให้ หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เต่าอ่อนแรงและเกิดภาวะขาดสารอาหารได้ บทความนี้จะพาคุณมารู้จัก 9 วิธีที่สามารถช่วยให้เต่าซูคาต้ากลับมากินอาหารได้ตามปกติอีกครั้ง
- ตรวจสอบอุณหภูมิในกรงเลี้ยง
อุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เต่าซูคาต้าไม่ยอมกินอาหาร หากกรงเลี้ยงมีอุณหภูมิต่ำกว่า 28 องศาเซลเซียส ระบบย่อยอาหารของเต่าจะทำงานช้าลงจนเต่าไม่อยากกินอาหาร ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุณหภูมิในกรงอยู่ระหว่าง 30–32 องศาในตอนกลางวัน และไม่ต่ำกว่า 25 องศาในตอนกลางคืน พร้อมติดตั้งหลอดไฟให้ความร้อนในบริเวณที่เต่าสามารถอาบแดดได้
- ตรวจดูแหล่งแสง UVB
แสง UVB มีความสำคัญต่อการสังเคราะห์วิตามินดีของเต่าซูคาต้า ซึ่งมีผลต่อการดูดซึมแคลเซียมและการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย หากไม่มีแสง UVB เต่าอาจรู้สึกอ่อนแรงและไม่อยากกินอาหาร ควรเปิดหลอด UVB ให้เต่าได้รับแสงอย่างน้อยวันละ 8–10 ชั่วโมง หรือให้เต่าอาบแดดธรรมชาติในช่วงเช้าอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบอาหารที่ให้
เต่าซูคาต้าเป็นสัตว์กินพืชโดยธรรมชาติ อาหารหลักควรเป็นหญ้าแห้ง เช่น หญ้า Timothy หรือหญ้า Alfalfa รวมถึงผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง คะน้า และผักกาดหอม หากให้อาหารที่มีรสหวานหรือฉ่ำน้ำมากเกินไป เช่น ผลไม้หรือผักบางชนิด อาจทำให้เต่าเบื่ออาหารและระบบย่อยเสียสมดุล ควรปรับอาหารให้สมดุลและหลากหลายเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร
- แช่น้ำอุ่นช่วยกระตุ้นระบบย่อย
การแช่น้ำอุ่นเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เต่าซูคาต้ากลับมากินอาหารได้ดีขึ้น เพราะน้ำอุ่นจะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและขับของเสียออกจากร่างกาย ควรแช่เต่าในน้ำอุ่นระดับพุงวันละประมาณ 15–20 นาที โดยใช้น้ำที่มีอุณหภูมิประมาณ 30–32 องศา วิธีนี้ยังช่วยให้เต่ารู้สึกสดชื่นและตื่นตัวมากขึ้นอีกด้วย
- สังเกตอาการผิดปกติทางสุขภาพ
หากเต่าซูคาต้าไม่กินอาหารติดต่อกันหลายวันและมีอาการผิดปกติ เช่น มีน้ำมูก หายใจแรง มีเสียงฟู่ หรือขยับตัวน้อย อาจเป็นสัญญาณของโรคระบบทางเดินหายใจหรือปัญหาทางเดินอาหาร ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เฉพาะทางสัตว์เลื้อยคลานเพื่อทำการตรวจรักษาโดยเร็ว
- ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
สภาพแวดล้อมที่แห้งเกินไปหรือมีเสียงดังรบกวนอาจทำให้เต่าซูคาต้าเกิดความเครียดจนไม่อยากกินอาหาร ควรวางกรงในที่เงียบ มีอากาศถ่ายเท และรักษาความชื้นในระดับที่เหมาะสม (ประมาณ 50–60%) หากเต่าอยู่ในที่ร่มเกินไป ควรมีจุดให้แสงแดดส่องถึงเพื่อช่วยกระตุ้นพฤติกรรมการกิน
- ใช้อาหารที่เต่าชอบเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร
บางครั้งเต่าซูคาต้าอาจเบื่ออาหารที่ซ้ำเดิม ลองเปลี่ยนมาให้อาหารที่เต่าชอบ เช่น ใบหญ้าสด ฟักทอง หรือผักบุ้งสดใหม่ สามารถสับผสมกันให้มีกลิ่นหอมและดูน่ากินมากขึ้น อีกเทคนิคหนึ่งคือการพรมน้ำบนอาหารเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและกลิ่นดึงดูดให้เต่ากลับมาสนใจ
- ลดความเครียดจากการเปลี่ยนแปลง
หากเพิ่งย้ายบ้าน เปลี่ยนกรง หรือเต่ามีสมาชิกใหม่ในพื้นที่เดียวกัน เต่าอาจเครียดและหยุดกินอาหารได้ ควรให้เวลาเต่าปรับตัวอย่างน้อย 2–3 วันโดยไม่รบกวนมากนัก ไม่ควรจับเล่นหรือย้ายที่บ่อยในช่วงนี้ เพื่อให้เต่ารู้สึกปลอดภัยและกลับมามีพฤติกรรมตามปกติ
- ตรวจสอบภาวะ寄生ภายในหรือพยาธิ
เต่าซูคาต้าที่ติดพยาธิในลำไส้จะมีอาการไม่อยากอาหารและน้ำหนักลดลงอย่างช้าๆ เจ้าของสามารถสังเกตได้จากอุจจาระที่มีกลิ่นแรงหรือมีเมือกปน หากสงสัยว่ามีการติดพยาธิ ควรนำตัวอย่างอุจจาระไปให้สัตวแพทย์ตรวจและรับยาถ่ายพยาธิตามคำแนะนำ ไม่ควรซื้อยามาใช้เองเพราะอาจเป็นอันตรายต่อระบบภายในของเต่า
สรุป
การที่เต่าซูคาต้าไม่ยอมกินอาหารไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพหรือความเครียดจากสภาพแวดล้อม เจ้าของควรเริ่มจากการตรวจสอบอุณหภูมิ แสง อาหาร และพฤติกรรมของเต่าอย่างละเอียด การแช่น้ำอุ่นและจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมมักช่วยให้เต่ากลับมากินได้ หากทำทุกอย่างแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง การสังเกตและลงมือแก้ไขอย่างถูกวิธีจะช่วยให้เต่าซูคาต้าของคุณกลับมาแข็งแรงและมีความสุขได้อีกครั้ง Site:https://www.taoland.co